จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

Linux

ลีนุกซ์คืออะไรลีนุกซ์ระบบปฏิบัติการแบบ 32 บิต ที่เป็นยูนิกซ์โคลน สำหรับเครื่องพีซี และแจกจ่ายให้ใช้ฟรี สนับสนุนการใช้งานแบบหลากงาน หลายผู้ใช้ (MultiUser-MultiTasking) มีระบบ X วินโดวส์ ซึ่งเป็นระบบการติดต่อผู้ใช้แบบกราฟฟิก ที่ไม่ขึ้นกับโอเอสหรือฮาร์ดแวร์ใดๆ (มักใช้กันมากในระบบยูนิกซ์) และมาตรฐานการสื่อสาร TCP/IP ที่ใช้เป็นมาตรฐานการสื่อสารในอินเทอร์เนตมาให้ในตัว 


ลีนุกซ์มีความเข้ากันได้ (compatible) กับ มาตรฐาน POSIX ซึ่งเป็นมาตรฐานอินเทอร์เฟสที่ระบบยูนิกซ์ส่วนใหญ่จะต้องมีและมีรูปแบบบางส่วนที่คล้ายกับระบบปฏิบัติการยูนิกซ์จากค่าย Berkeley และ System V โดยความหมายทางเทคนิคแล้วลีนุกซ์ เป็นเพียงเคอร์เนล (kernel) ของระบบปฏิบัติการ ซึ่งจะทำหน้าที่ในด้านของการจัดสรรและบริหารโพรเซสงาน การจัดการไฟล์และอุปกรณ์ I/O ต่างๆ แต่ผู้ใช้ทั่วๆไปจะรู้จักลีนุกซ์ผ่านทางแอพพลิเคชั่นและระบบอินเทอร์เฟสที่เขาเหล่านั้นเห็น (เช่น Shell หรือ X วินโดวส์) ถ้าคุณรันลีนุกซ์บนเครื่อง 386 หรือ 486 ของคุณ 


มันจะเปลี่ยนพีซีของคุณให้กลายเป็นยูนิกซ์เวอร์กสเตชันที่มีความสามารถสูง เคยมีผู้เทียบประสิทธิภาพระหว่างลีนุกซ์บนเครื่องเพนเทียม และเครื่องเวอร์กสเตชันของซันในระดับกลาง และได้ผลออกมาว่าให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน และนอกจากแพลตฟอร์มอินเทลแล้ว ปัจจุบันลีนุกซ์ยังได้ทำการพัฒนาระบบเพื่อให้สามารถใช้งานได้บนแพลตฟอร์มอื่นๆด้วย เช่น DEC Alpha , Motorolla Power-PC , MIPS 


เมื่อคุณสร้างแอพพลิเคชันขึ้นมาบนแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งแล้ว คุณก็สามารถย้ายแอพพลิเคชันของคุณไปวิ่งบนแพลตฟอร์มอื่นได้ไม่ยาก ลีนุกซ์มีทีมพัฒนาโปรแกรมที่ต่อเนื่อง ไม่จำกัดจำนวนของอาสาสมัครผู้ร่วมงาน และส่วนใหญ่จะติดต่อกันผ่านทางอินเทอร์เนต เพราะที่อยู่อาศัยจริงๆของแต่ละคนอาจจะอยู่ไกลคนละซีกโลกก็ได้ และมีแผนงานการพัฒนาในระยะยาว ทำให้เรามั่นใจได้ว่า ลีนุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่มีอนาคต และจะยังคงพัฒนาต่อไปได้ตราบนานเท่านาน

ระบบที่ต้องการ

ในที่สุดเวอร์ชันที่ผ่านของ Ubuntu นั้นสนับสนุนสถาปัตยกรรม 
Intel x86 และ AMD64 ของเครื่องเดสท็อปที่มีออกมา และ 
สถาปัตยกรรม Intel x86, AMD64 และ SPARC ของเครื่องแม่ข่าย 
แต่ก็ยังไม่สนับสนุนสถาปัตยกรรมของ PowerPC (ในเวอร์ชัน7.04 
นั้นก็ยังพอที่จะสนับสนุนสถาปัตยกรรมPowerPC ) , 
IA-64 (Itanium) และ เครื่องเล่นเกมส์ PlayStation 3 สำหรับ
เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าๆที่ไม่ได้อยู่ในระบบที่แนะนำก็ยังพอมี 
Xubuntu,ที่มีพื้นฐานมาจาก Xfce,ที่ต้องการ หน่วยความจำหลัก 
และพื้นที่ว่างเพียงครึ่งเดียวที่แนะนำ

[แก้]Server Edition

เครื่องที่เก่ามากๆก็เป็นไปได้ที่จะลงระบบปฏิบัติการนี้ได้ (เช่น 75 MHz Pentium หน่วยความ จำหลัก 32 MB) , ระบบขั้นต่ำที่แนะนำที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดดังนี้:
  • ไมโครโปรเซสเซอร์ 300 MHz สถาปัตยกรรมx86
  • หน่วยความจำหลัก 64 MB
  • พื้นที่ Harddisk 500 MB
  • การ์ดแสดงผลได้ที่ความละเอียด 640×480 pixel
  • ไดร์ฟ CD-ROM

[แก้]Desktop Edition

สำหรับรุ่นที่ใช้กับเครื่องเดสท็อปนั้นมีการแนะนำระบบขั้นต่ำที่ได้ประสิทธิภาพที่สุดดังนี้:
  • ไมโครโปรเซสเซอร์ 500 MHz สถาปัตยกรรมx86
  • หน่วยความจำหลัก 192 MB
  • พื้นที่ Harddisk 8 GB (ในการติดตั้งจริงต้องการ 4 GB )
  • การ์ดแสดงผลได้ที่ความละเอียด 1024×768 pixel
  • การ์ดประมวลผลทางเสียง (ถ้ามี)
  • การ์ดเชื่อมต่อกับระบบเน็ตเวิร์ก

การติดตั้ง Ubuntu


การติดตั้ง Ubuntu ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้น เพื่อไม่ให้
กระทบกับงานหรือไฟล์อื่นๆ ที่มีอยู่เดิม หรือเพื่อสร้างความมั่นใจก่อน
การตัดสินใจนั้นมี 3 ทางเลือกเลย แต่ก่อนที่จะทำการติดตั้งก็ไปหา
แผ่นซีดี/ดีวีดีสำหรับติดตั้งมาก่อน จะขอจากเว็บไซต์ จะซื้อราคาถูก
ๆ จากผู้ให้บริการสำเนา หรือจะดาวน์โหลดก็ว่ากันไป แต่แนะนำว่า 
ไปดาวน์โหลดเวอร์ชั่นที่ทำมาให้คนไทยใช้งานกัน จากชุมชนของคน
รักอูบุนตู (www.ubuntuclub.com) ดีกว่านะ เสร็จแล้วจะเขียน
ลงซีดี/ดีวีดีก็เลือกเอา แล้วแต่ขนาดไฟล์ที่โหลดมา แนะนำติดตั้ง
ผ่าน USB ง่ายและเร็ว และยังไม่เปลืองด้วย (คลิกไปอ่าน) หรือจะ
สั่งซื้อราคาถูกๆ จากคลับอูบุนตูคลิกเลย

วิธีการติดตั้งนี้ใช้ได้กับ Ubuntu ทุกสายพันธุ์ เวอร์ชั่นเก่า-ใหม่ รวม
ทั้ง Suriyan ที่ดาวน์โหลดมาจาก Sipa และ Ubuntu จากเว็บไซต์
ต้นฉบับของโครงการเลยทีเดียว ตัวอย่างต่อไปนี้ใช้ Ubuntu 9.12 
PE (DVD) ผ่านทาง USB Drive

เมื่อทุกอย่างพร้อม (คน แผ่นซอฟท์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ แนะนำ
ถ้ามีข้อมูลสำคัญสำรองไว้หน่อยกันพลาด) พร้อมแล้วมาดูวิธีการติด
ตั้งกันเลย สำหรับทางเลือก 3 วิธีมีดังนี้
  • ใช้งานแบบ LiveCD, LiveDVD หรือ Live USB ไม่ต้องติดตั้งแค่บูตจากซีดี ดีวีดี หรือ USB Drive แล้วทดลองใช้งานดูชอบหรือไม่ชอบอย่างไร (และยังเป็นการทดสอบว่า เครื่องเราติดตั้งน้องอุ๊บุนตูได้ไหม? ถ้าเจอภาพแจ่มๆ แบบด้านล่างก็มั่นใจได้เลยว่าติดตั้งได้แน่ๆ)
  • ลองแล้วชอบใจจัง จะติดตั้งเลยก็มีสองทางเลือกคือ เลือกติดตั้งคู่ขนานกับระบบปฏิบัติการเดิม (น้องอุ๊และน้องวิน) ใช้งาน 2 ระบบ โดยอาศัยพื้นที่ว่างๆ บนฮาร์ดดิสก์ประมาณ 3-5GB เท่านั้น แต่แบ่งไว้มากกว่านี้เถอะ จะได้อัพเดทใช้งานได้หลายๆ แบบสมใจนึก
  • และทางเลือกที่สามติดตั้งแบบ Single OS เดี่ยวๆ เลย แบบนี้สำหรับคนตกลงปลงใจแน่นอนแล้ว ใช้งานได้อย่างมั่นใจ จะรักน้องอุ๊ตลอดไป...

Live CD/DVD/USB

ก็แค่ทำการตั้งลำดับการบูตของเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา ให้เป็นบูต
ด้วย CD/DVD หรือ USB Drive ซึ่งตัวหลังนี่ในเมนบอร์ดรุ่นใหม่ๆ 
มักจะรองรับกันทุกยี่ห้อแล้ว ด้วยการสังเกตว่ากดปุ่มใดระหว่างการรี
สตาร์ทเครื่องจึงจะมีเมนูเลือกการบูต (Select Boot Menu ดูให้ทัน 
กดให้ทันตอนจอดำๆ) เช่น F2, F9, F10, F12 ก็จะเข้าสู่หน้าจอ
เลือกการบูตได้ รอสักพักหลังการบูตเสร็จสิ้น คุณจะพบกับสัญญ
ลักษณ์ของอุบุนตูและจะเห็นหน้าจอสวยๆ ดังภาพล่าง
ubuntu_01

ในบางเมนบอร์ดอาจจะมีให้เลือกบูตจาก USB Disk Drive, USB 
Floppy แต่ทำยังไงก็บูตไม่ได้สักที ในกรณีเช่นนี้ให้สังเกตที่ตัวเลือก
หัวข้อ HDD มีเคื่องหมายบวกนำหน้า ให้เลื่อนลูกศรไปทับบน 
+HDD แล้วกด Enter จะพบรายการฮาร์ดดิสก์และหนึ่งในนั้นจะ
มีชื่อของ USB Drive ของเราอยู่เลือกเลยก็จะเข้าสู่อุบุนตูได้ทันที

ก็ลองใช้งานได้เลย ทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย (เท่าที่ทดสอบมา
จากเครื่องหลายๆ รุ่นพบว่าใช้งานได้ทั้งแบบมีสายและไร้สายทันทีนะ
ครับ ถ้าใช้ Chip ท้องตลาดทั่วไป) ลองใช้งานซอฟท์แวร์ต่างๆ ที่มี 
สร้างความคุ้นเคย พิมพ์งาน จัดเก็บงานหรือแก้ไขงานเดิมได้ (ใน 
Ubuntu 9.12 PE DVD มีคู่มือการใช้งานโปรแกรมต่างๆ มาให้ด้วย
แล้วในเมนู Applications/Office > Thai E-Book อ่าน
ทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันได้เลย) แบบนี้ไม่เสี่ยงต่อความเสียหาย
ของระบบปฏิบัติการเดิม แต่อาจจะไม่ได้คุณสมบัติใหม่ๆ เพราะ
อัพเดทไม่ได้ ปิดเครื่องบูตใหม่ก็กลับมาเหมือนเดิม เมื่อชอบใจอยาก
ลองแต่ยังไม่อยากทิ้งระบบปฏิบัติการเดิมก็ติดตั้งได้เลย (สังเกตจะมี
ไอค่อนบนหน้าจอตรงเมาส์ชี้ Install Ubuntu 9.10) ก็คลิก ติด
ตั้งได้เลย


การติดตั้ง Dual Boot & Single Boot

การติดตั้งในแบบที่ 2 และ 3 เหมือนกันนะครับ เลยจะใช้การอธิบาย
ร่วมกันไปเลย หลังจากติดตั้งด้วยการคลิกที่ปุ่มไอค่อน Install 
Ubuntu 9.10 จะพบกับหน้าต่างดังภาพล่าง

ubuntu_02
  • เลือกภาษาในการติดตั้งจะเป็นภาษาอังกฤษ หรือภาษาไทย ก็ตามใจนะครับ ค่าปริยายคือ ภาษาไทย คลิกที่ปุ่มถัดไปเลยทันที
ubuntu_03
  • ให้เลือกภูมิภาคเอเชีย โซนเวลาเป็น ไทย (+7GMT Bangkok, Hanoi, Jarkata) คลิกที่ปุ่มถัดไปได้เลย
ubuntu_04
  • เลือกแป้นพิมพ์ ตัวเลือกจะเป็น Thailand อาจจะลองพิมพ์ดูในช่องด้านล่างได้ สลับภาษาด้วยปุ่ม Alt+Shift พอใจแล้วคลิก ที่ปุ่มถัดไป
ubuntu_05
  • ตรวจพบว่ามีไดรว์ USB ของเราอยู่จะเอาออกไหม? ไม่ต้องก็ได้จำไว้ว่ามันชื่อ /dev/sdd อย่าไปฟอร์แมตมันเข้าล่ะ หรือจะตอบใช่ก็ได้ไม่มีผลอะไร เข้าสู่ขั้นตอนต่อไปได้เลย (ถ้าใช้ CD/DVD ไม่มีถามนะครับ)
ubuntu_06
  • ขั้นตอนสำคัญล่ะ ถ้าจะติดตั้งคู่ขนานกับระบบปฏิบัติการเดิมเลือกติดตั้งคู่ขนานกัน ระบบจะควานหาไดรว์ที่มีพื้นที่ว่างเพียงพอและติดตั้งให้อัตโนมัติ (ใช้พื้นที่ประมาณ 3GB) อาจจะไม่ใช่ไดรว์ C:, D: ตามที่เราต้องการ
  • แต่ผมเลือกแบบกำหนดพาร์ทิชั่นเอง (ขั้นสูง) ซึ่งได้เตรียมพื้นที่ฟรีไว้ก่อนหน้าแล้วหนึ่งพาร์ทิชั่น ขนาดประมาณ 50GB และได้ทดลองติดตั้งสุริยันไปก่อนหน้านี้ คราวนี้จะลบ Suriyan ออกไปในแถบสีน้ำตาลนั่นเอง คลิกปุ่มถัดไป
ubuntu_07_2
  • ในกรอบสีแดงนั่นคือพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ที่ได้ติดตั้ง Suriyan ไว้จะมี 2 พาร์ทิชั่นคือพื้นที่ Swap และพื้นที่ไฟล์ระบบ ถ้าติดตั้งใหม่ทั้งสองส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ว่าง (แบ่งไว้ไม่ต้องฟอร์แมต) เราจะต้องทำการลบพาร์ทิชั่นทั้งสองนี้ทิ้งไปให้เป็นพื้นที่ว่าง
ubuntu_08
  • เลือกพาร์ทิชั่นของลินุกส์และทำการลบออกไป ในภาพเลือกพื้นที่ Swap ขนาด 2048 MB ออกไปก่อน กดปุ่ม Delete 
ubuntu_09
  • จะได้พื้นที่ว่างขนาด 2 GB เลือกพาร์ทิชั่น System ที่เป็น ext4 คลิกปุ่ม Delete อีกครั้งเพื่อลบพาร์ทิชั่นนี้
ubuntu_10
  • ได้พื้นที่ว่างขนาด 50GB มาพร้อมใช้งานแล้ว คลิกที่พื้นที่ว่างกดปุ่ม Add เพื่อสร้างพาร์ทิชั่นกันเลย เราจะสร้างพื้นที่ Swap ก่อนโดยปกติจะสร้างไว้ที่ 2 เท่าของแรมที่มีอยู่น้อยๆ ในเครื่อง
ubuntu_11
  • ในตัวอย่างผมสร้างขนาด 2GB เพราะแรมในเครื่องมีเยอะ 4GB เลยไม่จำเป็นต้องมากนัก และเลือกใช้เป็นพื้นที่สลับ (ถ้าเมนูภาษาอังกฤษจะเป็น Swap นะครับ) คลิกที่ปุ่มตกลง
ubuntu_12
  • สร้างพาร์ทิชั่นในส่วนที่เหลือพื้นที่ทั้งหมด (ตามภาพเลย) เลือกระบบแฟ้มเป็น journaling ext4 กำหนดตำแหน่งเมาท์เป็น Root (/) แล้วคลิกปุ่มตกลง
ubuntu_13
  • ระบบจะอ่านพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ที่เรากำหนดขึ้นและรายงานผลให้ทราบ ก่อนดำเนินการขั้นต่อไป
ubuntu_14
  • รายงานพื้นที่ทั้งหมดให้ทราบ คลิกปุ่มถัดไปเพื่อการกำหนดค่าต่างๆ กันได้เลย
ubuntu_15
  • เนื่องจากพื้นที่ที่เราจัดการในครั้งนี้ผมใช้ขนาดเท่ากับที่เคยติดตั้ง Suriyan ระบบจึงแจ้งเตือนว่า ข้อมูลทั้งหลายที่เคยมีใน /dev/sda6 จะถูกลบทิ้งนะ สำคัญไหม? สำรองข้อมูลหรือยัง? ถ้ามั่นใจก็ดำเนินการต่อไปได้เลย
ubuntu_16
  • กำหนดค่าของระบบที่จะติดตั้งใหม่ชื่อผู้ใช้งาน (คนแรก จะมีสถานะเทียบเท่าผู้ดูแลระบบ) กำหนดชื่อในการล็อกอินเข้าระบบ (ปกติจะใช้ชื่อเดียวกันแต่ตัวอักษรตัวเล็ก) พิมพ์รหัสผ่านให้ตรงกันทั้งสองช่อง (ควรมีความยาวมากกว่า 6 ตัวอักษร) ชื่อของเครื่องคอมพิวเตอร์เปลี่ยนได้ และกำหนดการเข้าสู่ระบบ (ผมใช้แบบล็อกอินอัตโนมัติ) แต่ถ้าอยากให้เท่ห์ แบบมีผู้ใช้หลายคนก็เลือกหัวข้อที่สอง ส่วนหัวข้อที่สามนี่ความมั่นคงสูงสุด เพราะมีการเข้ารหัสโฟลเดอร์ส่วนตัวของเราด้วย เรียกว่าล็อกอินด้วยชื่ออะไร ผู้นั้นจะมีสิทธิในโฮมโฟลเดอร์ของตนเอง คนอื่นเปิดดูก็ไม่ได้ คลิกปุ่มถัดไป
ubuntu_17
  • ระบบตรวจสอบพบว่ามีระบบปฏิบัติการอื่นติดตั้งอยู่ และมีบัญชีชื่อผู้ใช้งานในระบบนั้น เราจะนำเอาชื่อผู้ใช้นั้นมาใช้งานในอุบุนตูหรือไม่ (เลือกเอาเองครับ สำหรับผมไม่) คลิกที่ปุ่มถัดไป
ubuntu_18
  • สรุปข้อมูลทั้งหมดก่อนดำเนินการติดตั้ง เมื่อพร้อมแล้วจะรออะไรอีก คลิกที่ปุ่มติดตั้งได้เลย
ubuntu_19
  • ทำการฟอร์แมตพาร์ทิชั่น และจัดการทำสำเนาไฟล์ต่างๆ ลงให้ถูกที่ถูกทาง นั่งรอไปด้วยใจระทึก...
ubuntu_20
  • ในขั้นตอนติดตั้งก็อ่านหน้าจอไปเพลินๆ เขามีอะไรดีบ้าง รอจนกระทั่งเสร็จสิ้น ระบบจะแจ้งเตือนว่าเสร็จสิ้นแล้วจะบูตเครื่องใหม่ หรือจะทดลองเล่นบน Live Ubuntu ต่อ เลือก เริ่มใหม่ดูผลดีกว่านะ
ubuntu_21
  • ระบบจะแจ้งเตือนอีกครั้งให้เอาแผ่น CD/DVD ออกจากเครื่อง (มันดีดถาดซีดีออกมาเองเลยล่ะ แต่ผมใช้ USB Drive นี่ ก็ถอดออกเลย) แล้วเคาะคีย์บอร์ดที่แป้น Enter เพื่อเข้าสู่ระบบใหม่ เพื่อพบกับ....
ubuntu-logo-wide

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2555

ระบบเครื่องบริการ

ระบบเครื่องบริการ
1. Web server
คือ บริการ HTTP(HyperText Transfer Protocol) เพื่อให้ผู้ใช้สามารถอ่านข้อมูล ทั้งภาพ และเสียง จากเครื่องบริการ ผ่าน Browser เช่นบริการ http://www.thaiall.com หรือ http://localhost เป็นต้น


เครื่องบริการ ที่รอรับคำร้องขอจาก web browser ข้อมูลที่จะส่งไปอาจเป็นเว็บเพจ ภาพ หรือเสียง เป็นต้น สำหรับโปรแกรมที่ได้รับความนิยม ให้นำมาเปิดบริการ web คือ Apache web server หรือ Microsoft web server


DNS server คืออะไร
Domain Name System server เป็นเครื่องบริการแปลงชื่อเว็บเป็นหมายเลข IP ซึ่งการแปลงชื่อนี้อาจเกิดในเครื่อง local เอง จาก cache ในเครื่อง local หรือจากเครื่องบริการของผู้ให้บริการ


2. FTP server
FTP(File Transfer Protocol)
คือ เครื่องบริการการรับ-ส่งข้อมูล ซึ่งเปิดให้ผู้ใช้ที่เป็นสมาชิกเข้าใช้ แต่บางเครื่องอาจเป็นให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าใช้ โดยใช้รหัสสมาชิก anonymous ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วโลกว่าเป็นรหัสผู้ใช้สำหรับผู้ที่ไม่ประสงค์ออกนาม
FTP คือโปรโตคอลสำหรับถ่ายโอนข้อมูล โดยเครื่องที่เปิดบริการ FTP จะเปิด TCP port 21 ไว้ การเชื่อมต่อของ FTP มี 2 mode


1. FTP standard mode คือ การเชื่อมต่อที่ server เชื่อมต่อกับ client ผ่าน port 20 เป็น Out going port ส่วน port ฝั่ง client จะแล้วแต่ตกลงกัน แต่ถ้า client มี firewall ที่ไม่บริการ ftp ก็จะติดต่อไม่ได้


2. FTP passive mode คือ การเชื่อมต่อที่ client เป็นผู้เชื่อมต่อไปยัง server เพื่อใช้หมายเลข port ที่แล้วแต่จะตกลงในการส่งข้อมูล


3. Mail server
คือ เครื่องบริการรับ-ส่งจดหมายสำหรับสมาชิก บริการที่มีให้ใช้เช่น ส่งจดหมาย รับจดหมาย ส่ง attach file หรือการมี address book เป็นต้น ตัวอย่าง mail server ที่เป็นที่รู้จักทั่วไป เช่น hotmail.com หรือ thaimail.com เป็นต้น



SMTP server คืออะไร
Simple mail transfer protocol server คือเครื่องบริการส่ง e-mail ไปยังเครื่องบริการอื่น ๆ สำหรับ SMTP ส่วนใหญ่จะไม่ยอมให้คนนอกองค์กร หรือ IP ที่อยู่นอกองค์กรใช้งาน SMTP 

เพราะอาจมีคนในโลกใบนี้มาแอบใช้ ทำให้บริการ SMTP ทำงานหนักให้กับคนภายนอกโดยไม่เกิดประโยชน์ใด ๆ หากเครื่องของท่านบริการ SMTP แก่คนนอก แสดงว่าไม่ได้กำหนด RELAY ไว้ เพราะชาวโลกอาจใช้เครื่องมือค้นหา "OPEN RELAY" แล้วพบว่าเครื่องของท่านเป็นเครื่องหนึ่งที่ไม่ได้ทำ RELAY ไว้ก็ได้

 และที่อันตรายคือ อาจมีชาวโลกบางคนใช้โปรแกรม MOBI+ กำหนดให้เครื่อง SMTP ของท่าน bomb mail ไปยัง mail box ของเป้าหมาย และหมายเลขเครื่องที่โจมตี ก็คือ เครื่อง SMTP ของท่านนั่นเอง


POP server คืออะไร
Post office protocol server คือบริการรับ-ส่งเมลจาก mail server กับเครื่องของสมาชิก บริการนี้ ทำให้สามารถอ่าน mail ด้วยมือถือ หรือ PDA แต่ถ้าท่านใช้ mail ของ thaimail.com จะเป็น web-based mail ที่เปิดอ่าน e-mail ได้จาก web เท่านั้น จะเปิดด้วย outlook หรือ pda ไม่ได้


4. Database server
คือ เครื่องบริการข้อมูล ที่เปิดให้ผู้ใช้เพิ่มข้อมูล ลบ หรือแก้ไข สำหรับโปรแกรมบริการระบบฐานข้อมูลที่นิยมใช้ ได้แก่ MYSQL หรือ Microsoft Access เป็นต้น โดยผู้ใช้ต้องเขียนโปรแกรมสั่งประมวลผล ปรับปรุงข้อมูล หรือนำข้อมูลในส่วนที่ตนเองมีสิทธิ์ ไปใช้ตามต้องการ


5. Proxy หรือ NAT server
พร็อกซี่ เซิร์ฟเวอร์(Proxy server)
คือ เครื่องที่อยู่ตรงกลางระหว่างเครื่องลูกกับอินเทอร์เน็ต เพราะเครื่องลูกในเครือข่ายทั้งหมดจะไม่ติดต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง 

เมื่อเครื่องลูกเรียกดูข้อมูล จะส่งคำขอให้เครื่อง Proxy server และค้นหาข้อมูลนั้นใน เครื่อง Proxy server ว่ามีหรือไม่ หากมีก็จะส่งกลับไปให้เครื่องลูก โดยไม่ออกไปหาจากแหล่งข้อมูลจริง เพราะข้อมูลนั้นถูกเก็บในหน่วยความจำของเครื่อง Proxy server แล้ว

 จึงเป็นการลดภาระของระบบเครือข่าย ที่จะออกไปนอกเครือข่ายโดยไม่จำเป็น จะเห็นว่า Proxy server ทำหน้าที่เป็น Cache server ทำหน้าที่เก็บข้อมูลที่ผู้ใช้เคยร้องขอ หากมีการร้องขอข้อมูลที่ไม่มีใน proxy ก็จะออกไปหาในอินเทอร์เน็ต แล้วนำกลับมาเก็บใน cache เมื่อผู้ใช้ท่านอื่นต้องการ ก็จะนำจาก cache ไปใช้ได้ทันที สำหรับ Proxy server ที่นิยมใช้ใน Linux เช่น Squid มักให้บริการที่ port 3128 เป็นต้น


Proxy server คือ เครื่องบริการที่ทำหน้าที่แปลง address ของเครื่องต้นทางเมื่อมี package ส่งไปยัง local host หรือแปลง address ปลายทาง เมื่อมี package ส่งไปยัง localhost โดยลักษณะที่ชัดเจนของ proxy server คือการทำ caching ทำให้ local host เข้าถึงข้อมูล ซ้ำ ๆ กันได้โดยตรงจากเครื่องบริการ ใน local network ไม่ต้องออกไปนอกเครือข่ายโดยไม่จำเป็น


NAT (Network Address Translation)
คือ คุณสมบัติหนึ่งของการแจก IP หรือการทำ IP Sharing เพราะในเครือข่ายขนาดใหญ่จะใช้ Local IP หรือ Fake IP แต่จะมี Real IP อยู่บางส่วน โปรแกรมเครื่องบริการบางโปรแกรมมีหน้าที่กำหนด Local IP ให้เครื่องลูก เมื่อเครื่องลูกต้องการออกไปอ่านข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต ก็จะใช้ Real IP ออกไป 

จากลักษณะดังกล่าง อาจทำให้เครื่องที่เป็น NAT server ทำหน้าที่เป็น Firewall ปกป้องเครื่องลูก เพราะจะไม่มีใครทราบ Local IP ของเครื่องในองค์กรได้ เนื่องจากการออกไปสู่อินเทอร์เน็ตจะใช้ IP ของ NAT server เสมอ จึงไม่มีใครเจาะเข้าสู่เครื่องลูกได้โดยตรง 

การเป็น NAT server อาจไม่จำเป็นต้องใช้คุณสมบัติ Cache server ก็ได้ เพราะเครื่องที่เป็น Proxy server ที่มีศักยภาพต่ำ จะล่มได้เร็วกว่าเครื่องที่ทำหน้าที่เป็น NAT เพียงอย่างเดียว สำหรับโปรแกรมที่ทำหน้าที่เป็น NAT server เช่น WinGate, WinRoute, WinProxy หรือ ICS(Internet Connection Sharing) เป็นต้น


6. DHCP server
DHCP(Dynamic Host Configuration Protocol)
คือ โปรโตคอลที่ใช้ในการกำหนด IP Address อัตโนมัติแก่เครื่องลูกข่ายบนระบบ ที่ติดตั้ง TCP/IP สำหรับ DHCP server มีหน้าที่แจก IP ในเครือข่ายไม่ให้ซ้ำ เป็นการลดความซ้ำซ้อน เมื่อเครื่องลูกเริ่ม boot ก็จะขอ IP address, Subnet mark, หมายเลข DNS และ Default gateway



ขั้นตอนการเชื่อมต่อของเครื่องลูกกับ DHCP server

1. เครื่องลูกค้นหาเครื่อง DHCP server ในเครือข่าย โดยส่ง DHCP discover เพื่อร้องขอ IP address


2. DHCP server จะค้นหา IP ที่ว่างอยู่ในฐานข้อมูล แล้วส่ง DHCP offer กลังไปให้เครื่องลูก


3. เมื่อเครื่องลูกได้รับ IP ก็จะส่งสัญญาณตอบกลับ DHCP Request ให้เครื่องแม่ทราบ


4. DHCP server ส่งสัญญาณ DHCP Ack กลับไปให้เครื่องลูก เพื่อแจ้งว่าเริ่มใช้งานได้



แนะนำเว็บไซต์ประกอบการค้นคว้าบางส่วน
http://com2000.s5.com/linuxborn.html
http://www.december.com/unix/tutor/filesystem.html อธิบาย unix file system ***
http://www.levenez.com/unix/ ยอดเยี่ยม ละเอียด และมีภาพ *
http://web.ku.ac.th/schoolnet/snet1/software/linux/
http://pirun.ku.ac.th/~fengwks/comtrp/os.pdf

การรักษาความปลอดภัย (Security)
1. Firewall
Firewall คือ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่องค์กรต่างๆมีไว้เพื่อป้องกันเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายในของตนจากอันตรายที่มาจากเครือข่ายคอมพิวเตอร์ภายนอก เช่น ผู้บุกรุก หรือ Hacker Firewall จะอนุญาตให้เฉพาะข้อมูลที่มีคุณลักษณะตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ผ่านเข้าออกระบบเครือข่ายภายในเท่านั้น 


อย่างไรก็ดี Firewall นั้นไม่สามารถป้องกันอันตรายที่มาจากอินเทอร์เน็ตได้ทุกรูปแบบ ไวรัสก็เป็นหนึ่งในนั้น ดังนั้นจึงไม่สามารถรับรองได้ว่าความปลอดภัยหรือความลับของข้อมูลจะมีอยู่ร้อยเปอร์เซนต์ถึงแม้ว่าจะมีการใช้ Firewall แล้วก็ตาม


เครื่องบริการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล มีหลายที่หลายด้าน เช่น กรองแพ็กเกจ เฝ้าตรวจ ตรวจสอบการใช้ bandwidth หรือเก็บข้อมูลที่ local host ใช้งานบ่อย ไว้ให้ local host อื่น ๆ เรียกใช้ด้วยความเร็ว ซึ่งหลักการของ firewall ที่สำคัญมีดังนี้

1. ให้บริการเฉพาะที่ต้องการเปิด
2. ให้บริการใครบ้าง
3. ให้สมาชิกในแต่ละกลุ่ม สามารถใช้ได้เฉพาะที่เหมาะสม
4. กำหนดความปลอดภัยอย่างไร ให้แต่ละบริการ


Firewall ประกอบด้วย
1. Package filters เป็นหน้าที่ของ router ทำหน้าที่กรอง IP(Internet Protocol) TCP(Transmission Control Protocol) และ UDP(User Datagram Protocol) ถ้าข้อมูลที่ส่งมาไม่เป็นไปตามกฎ ก็จะเข้าเครือข่ายไม่ได้


2. Proxy server ทำให้เครื่องภายนอกทั้งหมดไม่รู้จักเครื่องภายในเครือข่าย เพราะทุกกิจกรรมต้องผ่านการแปลง IP ของ Proxy server
A firewall is a set of related programs, located at a network gateway server, that protects the resources of a private network from users from other networks. (The term also implies the security policy that is used with the programs.) An enterprise with an intranet that allows its workers access to the wider Internet installs a firewall to prevent outsiders from accessing its own private data resources and for controlling what outside resources its own users have access to.

Basically, a firewall, working closely with a router program, filter all network packet to determine whether to forward them toward their destination. A firewall also includes or works with a proxy server that makes network requests on behalf of workstation users. A firewall is often installed in a specially designated computer separate from the rest of the network so that no incoming request can get directly at private network resources.
There are a number of firewall screening methods. A simple one is to screen requests to make sure they come from acceptable (previously identified) domain name and Internet Protocol addresses. For mobile users, firewalls allow remote access in to the private network by the use of secure logon procedures and authentication certificates.


2. IDS (Intrusion Detection Systems)
IDS คือระบบตรวจสอบการบุกรุกเข้าสู่ระบบ ตรวจสอบมักวางไว้ทั้งหน้า firewall และหลัง firewall เพื่อตรวจสอบการบุกรุก และตรวจสอบผลการใช้ firewall ว่ากรองได้มากน้อยเพียงใด ตัวอย่างการบุกรุกเช่น DoS, Port scan หรือ Code red เป็นต้น สำหรับโปรแกรมที่นิยมนำมาใช้ศึกษาคือ BlackIce ซึ่งหา download ได้ไม่ยากนัก

3. Crack
คือ การเปลี่ยนการทำงานของโปรแกรม ให้ผิดไปจากที่ผู้สร้างโปรแกรมสร้างขึ้น เช่น ผู้สร้างโปรแกรมใส่รหัสผ่าน ผู้ใช้ต้องซื้อรหัสผ่านมาใช้ แต่ cracker จะแก้โปรแกรมโดยการยกเลิกการตรวจสอบรหัสผ่านนั้น สำหรับโปรแกรมที่ถูกนำมาใช้ เช่น WinHex และ SoftICE เป็นต้น

4. Hack
คือ การเข้าไปในระบบที่ผู้ทำการ hack ไม่มีสิทธิ์ การเข้าไปในเครื่องบริการที่มีระบบรักษาความปลอดภัย เป็นเป้าหมายสำคัญของ hacker เมื่อเข้าไปได้แล้วอาจกระทำการใด ๆ ทั้งที่เป็นประโยชน์ หรือโทษ กับระบบ ก็ขึ้นอยู่กับ hacker แต่ละคน ตัวอย่าง URL ที่ใช้ hack IIS บน Win 2000 คือ
http://localhost/scripts/..%255c../winnt/system32/cmd.exe?/c dir c:\
ผลการ hack ครั้งนี้คือการแสดงรายชื่อแฟ้มใน drive C ของ web server หรือหาโปรแกรม xperl.sh จากเว็บเผยแพร่ข้อมูลการ hack มาทดสอบใน Redhat 6.2 ซึ่งผลการ run xperl.sh จะทำให้ user ธรรมดา กลายเป็น root ทันที



ความปลอดภัยบนเครือข่าย (จาก doothai.com)

เช้ามืดวันหนึ่งของฤดูหนาว ในขณะที่ผู้คนกำลัง หลับไหลใต้ผ้าห่มผืนอุ่นอย่างสบาย อากาศในกรุงเทพฯ เวลานี้ช่างน่านอนเสียจริง แต่สำหรับเด็กชายอ๊อด เขากลับนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ที่ต่อเข้ากับอินเตอร์เน็ต 


ท่ามกลางความมืด ก็มีเพียงแสงจากมอนิเตอร์ ที่ฉาดฉายให้เห็นรอยยิ้มน้อยๆ ของเด็กชาย ในวัยซุกซนคนนี้ เมื่อมองไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ เด็กน้อยกำลังพยายามล็อกอิน เข้าไปยัง เครื่องคอมพิวเตอร์ของ บริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่ง ที่ถูกทางการปิดไป เด็กน้อยกำลังพยายามเข้าไป แก้ไขไฟล์การผ่อนชำระรถยนต์ เพื่อที่จะทำให้ข้อมูลรถของพ่อเขา หายไปจากระบบ รถที่ค้างชำระมากว่า 6 เดือน และรอโดนยึด จะได้ปราศจากตัวตนอีกต่อไป การกระทำของหนูน้อยคนนี้ คนทั่วๆไป มักจะคิดว่า และขนานนามเขาว่า Hacker แท้จริงแล้ว ชีวิตของ Hacker นั้นเป็นอย่างไร

อันที่จริงแล้ว ความเข้าใจของคนทั่วไป ที่มีต่อ Hacker นั้น ไม่ค่อยจะถูกต้องเท่าไรนัก แท้จริงแล้วในหมู่ของ Hacker เองนั้น กลับไม่ยอมรับ การกระทำแบบเจ้าหนูคนนี้ Hacker นิยามคนแบบนี้ว่า Cracker เพราะ Hacker นั้นไม่นิยม การหาประโยชน์ บนความเดือดร้อนของคนอื่น ในขณะที่ Cracker นั้น ใช้ประโยชน์จากความชาญฉลาด ของตนเอง เพื่อให้ได้มา ซึ่งสิ่งที่ตนเองต้องการ Hacker ต้องการทำในสิ่งที่เป็นการ ปลดโซ่ตรวน และพันธนาการ เพื่อความเป็นอิสระของตนเอง และผู้อื่น จากสิ่งที่พวกเขาคิดว่าไม่ถูกต้อง ทั้งหลาย
Hacker เชื่อในเรื่องของ พลังและอำนาจ ที่เขาสามารถควบคุม Cyberspace ได้ พวกเขาชอบที่จะค้นหา ความคิด วิธีการใหม่ๆ ที่จะปลดพันธนาการทั้งหลาย ที่ผูกมัดพวกเขาอยู่ เช่น พวกเขาเชื่อว่า ค่าโทรศัพท์ไปต่างประเทศ หรือต่างจังหวัด แพงเกินไป เนื่องจาก พวกผูกขาด (monopoly) อย่างองค์การโทรศัพท์ หรือ บริษัทเอกชน ขูดเลือดจากประชาชน คิดกำไรเกินควร พวกเขาจะคิดหาวิธีที่จะใช้โทรศัพท์ทางไกลฟรี เช่นการหา access code ที่ทำให้ควบคุมชุมสายได้ 

การต่อ oscillator เข้ากับสายโทรศัพท์เพื่อสร้างสัญญาณ Hacker ยินดีจ่ายค่าโทรศัพท์ท้องถิ่น ซึ่งมีราคาถูก แต่ไม่ยินยอมจ่ายค่าทางไกล เพราะพวกเขา คิดว่าราคาไม่ยุติธรรม และหากพวกเขาทำสำเร็จ พวกเขาจะไม่รีรอที่จะแพร่ขยาย ภูมิความรู้นี้ ไปสู่ Hacker คนอื่นๆ 

พวก Hacker จึงมีสังคมที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง บางคนที่ไม่ ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับ Hacker ก็มักจะ เสียดสีว่าเป็นพวก Digital Hippy บ้าง เป็น พวก Cyberpunk บ้าง ความจริง Hacker แตกต่างจากคนเหล่านั้น โดยสิ้นเชิง
Hacker เป็นคนที่มีความอุตสาหะ ใฝ่รู้ เป็นพื้นฐาน นอกจากนั้น เขายังเป็นคนที่ รักสันติ รังเกียจความรุนแรง และความเห็นแก่ตัว 

Hacker ชอบความท้าทาย พวกเขาชอบ ที่จะได้มาซึ่งความสามารถในการควบคุม ทั้งตัวเขาเอง และ Cyberspace ที่เขาอยู่ เขาพยายามชี้นำ Cyberspace เช่น ถ้าเขาเห็นว่า รัฐบาลอินโดนีเซีย ทำไม่ถูกในเรื่อง ติมอร์ตะวันออก เขาก็เข้าไปแก้ Homepage ของรัฐบาลอินโดนีเซียให้ มีข้อมูลที่ถูกต้อง 

Hacker ต่อต้านการละเมิดสิทธิมนุษยชน เขาเจาะเข้าไปใน computer ของรัฐบาล อินโดนีเซีย เพื่อลงโทษที่อินโดนีเซียทำไม่ถูกในเรื่องนี้ Hacker ทำตัวเหมือน Robinhood เช่น เข้าไปโอนเงินของ บริษัทน้ำมัน เพื่อไปยังกองทุนเด็ก
Hacker เชื่อว่า การรวมตัวของพวกเขา จะนำเสรีภาพมาสู่คนที่ไร้โอกาสได้ เขารวมตัวกันเพื่อกดดันกลุ่มที่เขาคิดว่า เห็นแก่ตัว และทำไม่ถูกต้อง ดังนั้นเราจึงไม่ค่อยเห็น Hacker เจาะระบบขององค์กร ที่เป็นสาธารณะอย่างสถาบันศึกษานัก ในขณะที่ องค์กรรัฐบาล องค์กรทหาร หรือ บริษัทขนาดใหญ่ ล้วนตกเป็นเป้าหมายของบรรดา Hacker
ความสนุก เป็นสิ่งที่ Hacker ต้องการนอกเหนือ จากการที่ได้ต่อต้าน การผูกมัด หรือความเห็นแก่ตัวของผู้ที่มั่งคั่ง 

Hacker อาจจะเพลิดเพลิน จากการที่เขาสามารถแกะ เลขบัตรเครดิต ทั้งที่เขาจะไม่เคยนำมันไปใช้เลย Hacker เป็นผู้ที่เห็นใจผู้อื่น เขาจึงไม่อาจนำ เลขบัตรเครดิตไปใช้ประโยชน์ เขาเพียงแต่สนุกที่สามารถแกะ หรือ ถอดรหัสให้ได้มันมา

5. Law และ License
การปฏิรูปกฎหมายเทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology Law) มีกฎหมายบังคับใช้ 6 ฉบับ

1. กฎหมายธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transaction Law)

2. กฎหมายลายมือชื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Signatures Law)

3. กฎหมายอาชญกรรมทางคอมพิวเตอร์ (Computer Crime Law)

4. กฎหมายการโอนเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Fund Transfer Law)

5. กฎหมายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Law)

6. กฎหมายลำดับรองของรัญธรรมนูณมาตรา 78 เกี่ยวกับการจัดโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศให้ทั่วถึง และเท่าเทียมกัน (Universal Access Law)

ประวัติความเป็นมา (History)

ประวัติความเป็นมา (History)
ระบบปฏิบัติการเก่าแก่ที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1969 โดยบริษัทเอทีแอนด์ที (AT&T หรือ American Telephone & Telegraph) เพื่อใช้กับเครื่องมินิคอมพิวเตอร์ โดยแรกเริ่มจะถูกใช้เพื่องานวิจัยหรือเพื่อการศึกษาในมหาวิทยาลัยเท่านั้น 

ต่อมาได้ถูกนำมาใช้ในทางธุรกิจและเป็นที่นิยมแพร่หลายมาจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการสำหรับผู้ใช้หลายคน(Multi-User) และสนับสนุนการทำงานแบบหลายงาน (Multi-task) ที่เปิดโอกาสผู้ใช้สามารถรันงานได้มากกว่าหนึ่งงานในเวลาเดียวกัน และเนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการที่ถูกพัฒนาขึ้นด้วยภาษาซี ไม่ใช่แอสเซมบลี ดังนั้นจึงมีคุณสมบัติที่เด่นกว่าระบบปฏิบัติการอื่น ๆ คือ การไม่ยึดติดอยู่กับฮาร์ดแวร์ (Hardware independent) 

ดังนั้นจึงสามารถใช้งานยูนิกซ์ได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์เกือบทุกแบบทุกประเภทตั้งแต่ไมโครคอมพิวเตอร์ มินิคอมพิวเตอร์ไปจนถึงเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ และนอกจากนี้ยังมีการเพิ่มเติมความสามารถทางด้านการเชื่อมต่อเข้ากับระบบเครือข่ายอีกด้วย

หลายบริษัทได้หันมาสนใจยูนิกซ์ AT&T จึงได้ออกใบอนุญาตให้กับบริษัทผู้ผลิตมินิคอมพิวเตอร์และเครื่องเวอร์กสเตชันทั้งหลาย เป็นผลให้ยูนิกซ์ได้รับการปรับปรุงแก้ไขและถูกขายให้กับบริษัทอื่น ๆ อีกหลายบริษัท ซึ่งก็ได้มีการพัฒนายูนิกซ์เวอร์ชันใหม่ ๆ ออกมามากมาย 

ตัวอย่างเช่น ยูนิกซ์เวอร์ชัน AIX จากบริษัทไอบีเอ็ม Solaris จากบริษัทซันไมโครซิสเต็ม NextStep จากบริษัท Next หรือ Motif จากบริษัทไอบีเอ็ม ดิจิตัลอีควิบเมนท์ และฮิวเลทท์แพ็คการ์ด (Hewlett-Packard) ที่ร่วมกันพัฒนา Motif ขึ้นมา หรือแม้แต่ในปัจจุบันที่มีกลุ่มผู้คนจากทั่วโลกได้ร่วมกันพัฒนายูนิกซ์เวอร์ชันสำหรับไมโครคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า ไลนักซ์หรือลีนุกซ์ (Linux) ออกมา 

ซึ่งเกิดจากการแลกเปลี่ยนความเห็นกันบนอินเตอร์เน็ตที่ต้องการจะพัฒนายูนิกซ์สำหรับเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ ที่มีประสิทธิภาพเท่ากับเครื่องขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายกว่าการใช้ยูนิกซ์สำหรับเครื่องขนาดใหญ่
ยูนิกซ์ยังเป็นระบบปฏิบัติการที่มีเครื่องมือ (tools) หรือโปรแกรมอำนวยความสะดวก (utilities) และเซลล์ (shell) ที่ช่วยนักเขียนโปรแกรมสามารถพัฒนาโปรแกรมประยุกต์บนยูนิกซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

นอกจากนี้ โครงสร้างระบบไฟล์ยังเหมือนกับระบบปฏิบัติการดอส แต่คำสั่งอาจแตกต่างกันไปบ้าง
ข้อด้อยของยูนิกซ์คือ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะต้องจดจำคำสั่งต่าง ๆ ของยูนิกซ์ ซึ่งค่อนข้างยากต่อการจดจำ แต่ในปัจจุบันผู้ผลิตเครื่องที่ใช้ระบบปฏิบัติการยูนิกซ์ ก็ได้พัฒนาโปรแกรมที่มีลักษณะเป็น GUI (Graphic User Interface) จึงช่วยให้การใช้งานยูนิกซ์ง่ายขึ้น 

นอกจากนี้การที่ยูนิกซ์ถูกพัฒนาเป็นหลายเวอร์ชันจากหลายบริษัท ซึ่งแต่ละเวอร์ชันอาจมีข้อแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย จึงทำให้มีผู้มองว่ายูนิกซ์ไม่มีความเป็นมาตรฐานเดียวกัน
แต่เนื่องจากยูนิกซ์เป็นระบบปฏิบัติการที่สามารถใช้งานได้กับเครื่องคอมพิวเตอร์หลายประเภทหลายแบบ 

ดังนั้นจึงเป็นระบบปฏิบัติการที่นิยมใช้มากในระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่มีการเชื่อมเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่ละประเภทเข้าด้วยกันในลักษณะของเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

ทำไมถึงต้องเป็นลีนุกซ์

ทำไมถึงต้องเป็นลีนุกซ์
ข้อความบางส่วนจากหนังสือ "Running Linux" ของ Matt Welsh and Lar Kaufman เนื่องจากเป็นระบบปฏิบัติการที่ฟรี คุณสามารถจะขอจากผู้ที่มีลีนุกซ์ หรือจะดาวน์โหลดจากอินเทอร์เนต หรือบีบีเอสได้โดยไม่ผิดกฏหมาย เนื่องจากมีผู้นิยมใช้มาก ทำให้มีผู้นำลีนุกซ์ไปแก้ไขให้สามารถใช้งานได้บนตัวประมวลผลกลางหลากหลายตั้งแต่อินเทล, โมโตโรลา, ดิจิตอลอัลฟา, พาวเวอร์พีซี, ไปจนถึง สปาร์คของซัน 


นอกจากนี้ยังมีผู้พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ออกมากันมากมาย มีประสิทธิภาพและมีคุณภาพสูง ลีนุกซ์เป็นระบบปฏิบัติการ 32 บิตเต็มรูปแบบ ซึ่ง สามารถจะดึงเอาพลังของเครื่องคอมพิวเตอร์ออกมาได้อย่างเต็มกำลัง ลีนุกซ์ถูกพัฒนา จากผู้พัฒนานับร้อยทั่วโลก แต่ Linus จะเป็นคนวางทิศทางในการพัฒนาด้วยตัวเอง มีคุณลักษณะของระบบ UNIX เต็มรูปแบบ และเป็นระบบหลากผู้ใช้ หลายงานอย่าง แท้จริง ลีนุกซ์มีระบบอินเทอร์เฟสแบบกราฟฟิคที่เรียกกันว่า X Windows ซึ่งเป็น มาตรฐานของระบบยูนิกซ์ทั่วๆไป และสามารถใช้ window manager ได้หลายชนิด ตามความต้องการ 


นอกจากนี้ยังสนับสนุนโปรโตคอลแบบ TCP/IP ,SLIP, PPP, UUCP และอื่นๆ คุณสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ง่าย มีเอกสารหลากหลาย (กรุณาดูข้างล่าง) และผู้คนมากมายคอยสนับสนุนคุณผ่านอินเทอร์เนต หรือคุณอาจจะหาการสนับสนุนจากบริษัทที่ปรึกษา หรือจากบริษัทผู้จัดจำหน่ายระบบลีนุกซ์ก็ได้ มีเหตุผลหลายประการที่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมผู้คนถึงชอบลีนุกซ์ แต่โดยส่วนตัวแล้ว น่าจะเป็นเพราะการพัฒนาอย่างรวดเร็วของลีนุกซ์ เนื่องจากคุณสามารถเห็นการเปลี่ยน แปลงตัวเคอร์เนล และการพัฒนาโปรแกรมประยุกต์ใหม่ๆออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่เคยพบเห็นในระบบที่แจกจ่ายฟรีแบบนี้ที่ไหนมาก่อนเลย 


ผู้ใช้งานและแอพพลิเคชันบนลีนุกซ์ บรรดาผู้ใช้งานบนลีนุกซ์มีได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระดับเคอร์นัลแฮกเกอร์ ซึ่งจะทำการศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของระบบปฏิบัติการในระดับลึก ไปจนถึงเอนด์ยูเซอร์หรือผู้ใช้ทั่วไป 


คุณสามารถใช้ลีนุกซ์ทำประโยชน์ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเอาไว้ทำการศึกษาระบบยูนิกซ์ หรือคุณสามารถจะศึกษาตัวอย่างการเขียนรหัสโปรแกรมที่ดีได้ หากต้องการจะใช้แอพพลิเคชันบนดอส หรือบนวินโดว์ส ลีนุกซ์ก็จะมีดอสอีมูเลเตอร์ (DOSEMU) และวินโดว์สอีมูเลเตอร์ (WINE) ให้ สำหรับอีมูเลเตอร์ทั้งสองตัวนี้ยังอยู่ในขั้นทดสอบ 


และยังรันแอพพลิเคชันของดอสกับวินโดว์สได้ไม่มาก แต่ทีมพัฒนาโปรแกรมทั้งสองนี้ก็ยังทำการพัฒนาต่อไปเรื่อยๆ และตั้งเป้าหมายว่าจะต้องรันแอพพลิเคชันของดอสกับวินโดวส์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ล่าสุดทางบริษัท Caldera ได้ทำการซื้อลิขสิทธ์ WABI 2.2 ซึ่งเป็นอีมูเลเตอร์สำหรับรันแอพพลิเคชันของวินโดว์ส ที่ใช้ในเวอร์กสเตชันของซันมาใส่ในผลิตภัณฑ์ OpenLinux ของตน